Friday, February 18, 2011

hCG กับการออกกำลังกาย

วันนี้ทดลองวิ่งบนลู่วิ่งในยิมเป็นครั้งแรกหลังจากที่ลดน้ำหนักไป 10 กิโล วิ่งไป 10 นาทีที่
สปีด 8 ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงแย่ เสียดายที่เมื่อวันอาทิตย์ข้อเท้าพลิก เลยยังรู้สึกเจ็บแปล้บๆ บวกกับการที่ไม่ได้ออกกำลังกายมา 3 เดือน เลยไม่อยากหักโหมมากในวันแรก การได้วิ่งแค่ 10 นาทีวันนี้ช่างมีความสุขเสียจริง รู้สึกตัวเบาขึ้นมาก ท่าวิ่งก็ดูทมัดทะแมงขึ้น ไม่มีอาการหอบเลยแม้แต่น้อย

ก่อนหน้าที่จะรู้จัก hCG เราเคยเล่น Bootcamp เป็นประจำ ต้องตื่น ตี 5 เพื่อไปรวมตัวกันที่สวนแห่งหนึ่งให้ทัน 6 โมงเช้า แล้วออกกำลังกายกันอย่างสุดโหดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ไม่ว่าจะ คลาน 4 ขา วิดพื้น วิ่งขึ้นลงสะพานลอยเป็นสิบรอบ และอื่นๆอีกมากมาย จะว่าไปแล้ว Bootcamp นี่ก็สนุกและมันดีนะ ร่างกายได้สร้างกล้ามเนื้อและรู้สึกแข็งแรงขึ้น แต่ในแง่ของการลดน้ำหนักแล้ว สำหรับเราเห็นผลน้อยมากทั้งที่บางคนก็ได้ผลดี

จากนั้นเราก็เริ่มวิ่ง เราได้โหลด app มาอันหนึ่งชื่อ c25k หรือ "couch to 5k" ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย ให้วิ่งต่อเนื่องได้ 5 กิโลเมตรภายใน 4 สัปดาห์ ในวันแรกให้เริ่มต้นวิ่ง 1 นาทีสลับเดิน 3 นาที 6 ครั้ง ฟังดูง่ายใช่มั้ย? แต่สำหรับเราตอนนั้น รู้สึกเหมือนจะขาดใจ เจ็บหน้าแข้งก็เจ็บ แต่ต้องยกนิ้วให้ app นี้จริงๆ เพราะไม่เพียงแต่ฝึกให้เราวิ่งได้ 5 กิโลภายใน 4 สัปดาห์ แต่ยังทำให้เรารู้สึกชอบวิ่งมากๆ แต่แม้จะวิ่งเป็นประจำ น้ำหนักก็แทบจะไม่ลดเลย :-(

พอเริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับ hCG และตัดสินใจที่จะทดลองวิธีนี้ก็จำต้องหยุดออกกำลังกายทั้งที่กำลังวิ่งได้ดี เนื่องจากว่า ตามกฎของ hCG จะต้องกินเพียงวันละ 500 แคลอรี่เท่านั้นและห้ามออกกำลังกายเพราะร่างกายอาจขาดพลังงานได้ ปรากฎว่าน้ำหนักลดลงเร็วกว่าวิธีการลดน้ำหนักอื่นๆทั้งหมดที่เคยทดลองมา ไม่ว่าจะเป็นการกินยาลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย หรือการกินอาหารเสริมยอดฮิตของบริษัท MLM ทั้งหลายทั้งปวง

ในเฟสสามนี้ สามารถออกกำลังกายได้แล้วเนื่องจากเพิ่มแคลอรี่เป็น 1,500 การออกกำลังกายในเฟสสามจะช่วยกระชับสัดส่วนให้เข้ารูปได้เร็วยิ่งขึ้น

ผลการตรวจสุขภาพหลังจากลดน้ำหนักลง 10 กิโล

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ก.พ. 2554 ได้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ผลปรากฏว่าสุขภาพดีมากจนน่าทึ่ง! ใครบอกว่าการลดน้ำหนักแบบนี้อันตรายและเสียสุขภาพ?การปล่อยตัวให้อ้วนไปเรื่อยๆ ไม่เสียสุขภาพมากกว่าหรือ? ใครๆ ก็รู้ว่าโรคอ้วนเป็นต้นกำเนิดของโรคอื่นอีกมากมาย หรือจะรอให้ป่วยก่อน?

และแล้วก็มีเพื่อนร่วมทาง

เพื่อนสนิทเราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเรา และได้ตัดสินใจเริ่มลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้เช่นกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผ่านไป 4 วันน้ำหนักลงไป 5 ปอนด์กว่า (เพื่อนชั่งน้ำหนักเป็นปอนด์เพราะถนัดกว่าและเห็นตัวเลขที่ลดลงมากกว่า) เรารู้สึกตื่นเต้นกับเพื่อนเรามาก เพื่อนเราตั้งใจจะลด 20 กิโล ทีแรกเขาบอกว่า "ถ้าลดได้แค่ 10 กิโลก็โคตรดีใจแล้ว" เป็นธรรมดาของคนที่อ้วนเป็นเวลานานและลองลดน้ำหนักมาแล้วทุกวิธี ที่จะรู้สึกท้อแท้จนไม่กล้าที่จะหวังไปไกล เราเองก็เคยรู้สึกเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้เราทั้งสองคนได้มองเห็นทางสว่างด้วย hcg และกล้าฝันอีกครั้ง ถึงวันนี้ผ่านไปเพียง 1 อาทิตย์น้ำหนักลงไปแล้ว 10 ปอนด์ ลงเร็วกว่าเราตั้งเยอะ! ดีใจกับเพื่อนมาก ^_^

P3D13 เฟสสามกับการรักษาน้ำหนักให้คงที่

ตั้งแต่เริ่มเฟส3 ยังไม่ได้ update blog เลยหลายคนอาจเริ่มสงสัยว่าเมื่อเข้าสู่เฟส3 แล้วเพิ่มแคลอรี่เป็น 1,500 แคลอรี่ต่อวัน น้ำหนักคงขึ้นจนไม่อยาก update ก็เป็นได้ ในวันแรกเราเพิ่มแคลอรี่เป็น 700 ในวันที่สอง 900 วันที่สาม 1,200 และวันที่สี่เป็นต้นมา 1,500 แคลอรี่ น้ำหนักมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย +/- 0.5 กิโลซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในช่วงแรกของเฟส3 จุดประสงค์ของเฟสสามนี้ก็เพื่อรักษาน้ำหนักให้คงที่ และให้ร่างกายได้บันทึกน้ำหนักใหม่นี้เป็น set point